Idiom
คือ กลุ่มคำที่มีความหมายต่างจากคำแต่ะคำในกลุ่ม
โดยมากจะมีลักษณะของการอุปมาอุปมัย หรือเปรียบเทียบ หรืออีกนัยหนึ่ง
หมายถึง สำนวน, สุภาษิต หรือคำพังเพย การศึกษา Idiom
เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
เพราะการเรียนรู้จากสำนวน สุภาษิตหรือคำพังเพยนั้น
ทำให้เราเข้าใจถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิดต่างๆ
ของเจ้าของภาษา สามารถทำให้เราเข้าใจภาษานั้นๆ
ได้มากขึ้นและยังทำให้เราสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษายิ่งขึ้นอีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นการยก
ตัวอย่าง Idiom ที่เราสามารถพบเจอได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น
ในการดูภาพยนตร์ โฆษณา วารสาร หนังสือพิมพ์ ตำรา ฯลฯ ดังนั้น การศึกษา
Idiom เหล่านี้จะทำให้เราสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษจากสื่อต่างๆ
ได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
As long as = ตราบเท่าที่
I will do my best for this job as long as I work here.
ผมจะทำงานนี้ให้ดีที่สุดตราบเท่าที่ผมยังทำงานที่นี่
Blow out = ดับ, เป่าให้ดับ
Please blow out the candle before you leave this room.
กรุณาดับเทียนก่อนออกจากห้อง
Blow up = โกรธจัด
Nancy blew up after knowing that she was cheated by her boyfriend.
แนนซี่โกรธจัดหลังจากที่จับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจ
Break in = ขัดจังหวะ
Excuse me, sorry to break in your conversation.
โทษทีครับ ขอโทษที่ขัดจังหวะการสนทนานะ
Call on = แวะเยี่ยม
I will call on Patrick for a while this afternoon at his house.
ฉันจะแวะไปเยี่ยมแพททริกที่บ้านเขาซักแป๊บนึงตอนบ่าย
Carry on = ดำเนินต่อไป
He will carry on this position after New Year.
เขาจะดำเนินงานในตำแหน่งนี้ต่อไปหลังจากปีใหม่
Check in = เข้าพัก
I would like to check in the hotel on the next Monday.
ฉันขอเข้าพักที่โรงแรมในวันจันทร์หน้าค่ะ
Cheer up = ทำให้ร่าเริง, รื่นเริงขึ้น
Everybody cheer up! The party is going to start.
ทุกคนร่าเริงหน่อย! ปาร์ตี้กำลังจะเริ่มแล้ว
Close to = ใกล้กับ, ติดกับ
My house is close to the bank.
บ้านของผมอยู่ใกล้กับธนาคาร
Come after = ตาม
Please come after me otherwise you’ll get lost.
กรุณาตามผมมาครับ ไม่งั้นคุณอาจจะหลงทางได้
Consist of = ประกอบด้วย
This group consists of 10 members.
กลุ่มนี้ประกอบด้วยสมาชิก 10 คน
Drop off = แวะส่ง
Please drop me off at the bank this morning.
ช่วยส่งฉันที่ธนาคารเช้านี้ด้วยค่ะ
Due to = เนื่องมาจาก, เพราะว่า
Due to his carelessness, he broke that vase finally.
เป็นเพราะความไม่ระมัดระวังของเขา ในที่สุดเขาก็ทำแจกันแตกจนได้
Eat up = กินจนหมด
He ate up everything on the table last night after long time hard working.
เมื่อคืนนี้เขากินทุกอย่างบนโต๊ะจนหมด หลังจากที่ทำงานหนักมานาน
Give up = ยกเลิก, หยุด
Don’t give up trying. You will succeed one day.
อย่าหยุดพยายาม คุณจะประสบความสำเร็จได้ในซักวัน
Look out = ระวัง
Please look out for the pickpocket.
กรุณาระวังคนล้วงกระเป๋า
-------------------------------
Everything but the kitchen sink
Did you know that in English, there are
numbers of expression about the kitchen? And this lesson, I’m going to show
three of them. Let’s start with one of my favorite. ‘everything but the kitchen
sink’ This expression means too many things or a lot of unnecessary things. For
example, my grandfather used to joke and said that my grandmother carried
everything but the kitchen sink in her purse. And I have one of the bags that
used to belong to my grandmother. Inside she really did carry a lot of things,
everything from a flashlight to a photo album. She truly carried everything but
the kitchen sink with her. Let’s go on to the second expression. Over here I
have a frying pan and fire. The expression
‘out of the frying pan and into the fire’ means you just went from one
bad situation to another, perhaps even worse. Last expression, let’s begin by
looking up here, you see a ceiling fan. It’s quite common to have a ceiling fan
in a kitchen because when we cook, it gets hot. And who likes to be in a room
that is really hot. We say ‘if you can’t take the heat, get out of the
kitchen’. It means if you can’t handle the competition, then quit or don’t even
start at the first place. So here are the three expressions:
คุณรู้หรือไม่ว่าในภาษาอังกฤษนั้นมีสำนวนเกี่ยวกับห้องครัวอยู่มากมาย
และในบทเรียนนี้ ฉันจะนำเสนอสามสำนวนครัวๆ มาเริ่มกับสำนวนโปรดของฉันกันเลย ‘everything but the kitchen sink’ สำนวนนี้หมายถึง
พกพาสิ่งของมากมายหรือสิ่งของที่ไม่สำคัญ ประมาณว่าบ้าหอบฟาง ยกตัวอย่างเช่น
คุณตาของฉันมักจะแซวคุณยายของฉันเสมอๆว่าเธอชอบบ้าหอบฟาง
ในกระเป๋าของเธอนั้นมีตั้งแต่ไฟฉายพกพาไปถึงอัลบั้มรูปถ่าย เธอเป็นประเภทบ้าหอบฟางจริงๆ
เอาล่ะ มาดูสำนวนที่สองกัน ตรงนี้ฉันมีกระทะกับไฟ สำนวน ‘out of the frying
pan and into the fire’ หมายถึง
คุณหนีจากสถานการณ์เลวร้ายไปสู่สถานการณ์ที่อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า หรือ
หนีเสือปะจระเข้นั่นเอง สำนวนสุดท้าย ดูข้างบนนี้คุณจะเห็นพัดลมเพดาน
คนส่วนใหญ่มักจะติดตั้งพัดลมเพดานเอาไว้ในห้องครัว เพราะเวลาที่คุณทำอาหาร
ห้องครัวก็จะทั้งร้อนและอบอวลไปด้วยกลิ่นของอาหาร ใครจะอยากอยู่ในห้องที่ร้อนๆล่ะ
สำนวนสุดท้ายก็คือ ‘if you can’t take the heat, get out of the kitchen’ ซึ่งหมายถึง ถ้าทำไม่ได้ก็ยอมแพ้ซะหรือไม่ก็อย่าเริ่มตั้งแต่แรก เอาล่ะ
มาดูกันอีกครั้ง
Everything but the kitchen sink = too
many things or a lot of unnecessary things
พกพาสิ่งของมากมายหรือสิ่งของที่ไม่สำคัญ
ประมาณว่าบ้าหอบฟาง
Out of the frying pan and into the
fire = you went from one bad situation to another one, perhaps even worse
หนีจากสถานการณ์เลวร้ายไปสู่สถานการณ์ที่อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า
หรือ หนีเสือปะจระเข้
If you can’t stand (take) the heat,
get out of the kitchen = if you can’t handle the situation, just quit or don’t
even start at the first place
ถ้าทำไม่ได้ก็ยอมแพ้ซะหรือไม่ก็อย่าเริ่มตั้งแต่แรก
- See more at:
http://www.engtest.net/forum/detail.php?type_id=03-01&&topic_id=3085#sthash.V6VxG4at.dpuf
--------------------------------
Still water runs deep
Still waters run deep [Prov.] เทียบได้กับสำนวนไทยที่ว่า น้ำนิ่งไหลลึก
หมายถึงสิ่งที่เราเห็นภายนอกดูธรรมดา เหมือนไม่มีอะไร
แต่ข้างในอาจซ่อนสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเอาไว้ เช่นเดียวกับพื้นน้ำที่มองดูสงบนิ่ง
แต่กระแสน้ำด้านใต้ที่ลึกลงไปอาจไหลเร็วแรงจนเราต้านทานไม่อยู่เลยทีเดียว
ไปดูตัวอย่างกันเลยนะคะ
Ex.1
Edward : Look. That’s the new head of the
marketing department. He’s so quiet. I don’t think he will be as good as Mr.
Brian - the ex-manager.
Jacob : But I don’t think so. Do you know
“Still water runs deep”?
Edward : Hmm let’s see.
เอ็ดเวิร์ด : ดูสิ นั่นหัวหน้าคนใหม่ของแผนกการตลาด
เขาเงียบมากเลย ฉันว่าเค้าคงเก่งสู้คุณไบรอันที่เป็นผู้จัดการคนก่อนไม่ได้แน่
เจคอบ : แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ
นายรู้จักคำว่า “น้ำนิ่งไหลลึก”
รึเปล่าล่ะ?
เอ็ดเวิร์ด : อืม ก็คอยดูไป
Ex.2
Harry : I can’t believe! Ron has taken the
first place for the final exam.
Draco : Is that true? I never see him touch a
book as well.
Harry : Well, still water runs deep. Who
know!
แฮร์รี่ : ชั้นไม่อยากเชื่อเลย!
รอนได้ที่หนึ่งในการสอบปลายภาคครั้งนี้
เดรโก : จริงเหรอ? ฉันไม่เคยเห็นเค้าแตะหนังสือเลยด้วยซ้ำ
แฮร์รี่ : อืม คงเป็นน้ำนิ่งไหลลึกล่ะ
ใครจะรู้!
Ex.3
Dan : I don’t like my new boss. He never
says anything and looks silly.
Emma : You should wait and see him longer.
Don’t be so sure, still water runs deep, you know.
Dan : I will.
แดน : ผมไม่ชอบเจ้านายคนใหม่เลย เค้าไม่เคยพูดอะไรซักคำแล้วก็ดูงี่เง่า
ๆ ยังไงไม่รู้
เอ็มม่า : คุณน่าจะรอดูเค้านานกว่านี้นะ
อย่าเพิ่งแน่ใจอะไรแบบนั้น น้ำนิ่งไหลลึก รู้จักมั้ย
แดน : ผมจะรอดู
Ex.4
Ben : I’m gonna win the match tomorrow
for sure.
Gwen
: How can you be so confident?
Ben : My competitor is a new guy and
never talks about the game. I guess he doesn’t even know how to play.
Gwen : But still water runs deep, I think
you should be more careful.
เบ็น : ฉันต้องชนะการแข่งขันพรุ่งนี้แน่นอน
เกว็น : ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้น?
เบ็น : ก็คู่แข่งเป็นเด็กใหม่
แล้วก็ไม่เคยเห็นพูดถึงการแข่งเลย ฉันว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเล่นยังไง
เกว็น : แต่น้ำนิ่งไหลลึกนะ
ฉันว่านายอย่าประมาทดีกว่า
พอมองเห็นภาพของการนำไปใช้ได้มากขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ
สถานการ์แบบนี้ต้องระวังนะคะ เพราะคนบางคนที่เราคิดว่าไม่มีอะไร
อาจเป็นคนที่ทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ
และสุดท้ายอาจเป็นคนที่ทำให้พลาดท่าเสียทีได้ ทางที่ดีก็อย่าประมาท
อย่ามองคนเพียงแค่ภายนอกและจำไว้เสมอคะ Still
water runs deep น้ำนิ่งไหลลึก แล้วพบกันใหม่คราวหน้าค่ะ!!
- See more at:
http://www.engtest.net/forum/detail.php?type_id=03-03&&topic_id=3111#sthash.uaPQUu7c.dpuf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น